วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

นางสาววาริน จินต์วานิช 571611162

The Internet of Thing (IoT)

 
What? Meaning?
          Internet of Things (IoT) คือ เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตที่เชื่อมอุปกรณ์และ เครื่องมือต่างๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ รถยนต์ ตู้เย็น โทรทัศน์ และอื่นๆ เข้าไว้ด้วยกัน โดยเครื่องมือต่างๆ จะสามารถเชื่อมโยงและสื่อสารกันได้โดยผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ในอนาคต ผู้บริโภคทั่วไปจะเริ่มคุ้นเคยกับเทคโนโลยีที่ทำให้พวกเขา สามารถควบคุมสิ่งของต่างๆ ทั้งจากในบ้าน และสำนักงานหรือจากที่ไหนก็ได้ เช่น การควบคุมอุณหภูมิภายในบ้าน การเปิดปิดไฟ ไปจนถึงการสั่งให้เครื่องทำกาแฟ



For (Applications)?
            1.Smart home 
            ไม่ค่อยน่าแปลกใจเท่าไหร่ที่ Smart Home จะถูกจัดอยู่ในอันดับหนึ่ง สำหรับเดือนที่สำรวจนั้นพบว่ามีผู้คนค้นหาบนกูเกิลด้วยคำว่า “Smart Home” มากกว่า 60,000 คนเลยทีเดียว โดยในฐานข้อมูลของ IoT Analytics มีบริษัทรวมถึง startup ต่างๆ อยู่มากถึง 256 บริษัทที่ทำเรื่อง Smart Home อยู่ในตอนนี้ และมีการเปิดให้ใช้งานแอพพลิเคชันทางด้าน IoT อยู่ในปัจจุบัน  จำนวนเม็ดเงินที่มีการลงทุนไปใน Smart Home ของบริษัท Startup ในปัจจุบันมีนั้นเกิน 2.5 พันล้านเหรียญไปแล้ว นี่ยังไม่ได้นับรวมบริษัท startups ชื่อดังอย่างเช่น Nest หรือ AlertMe เข้าไป และก็ยังไม่ได้รวมบริษัทข้ามชาติดังๆ อย่างเช่น Philips, Haier หรือ Belkin เข้าไป

           

            2.Wearables
            Wearables devices ยังเป็นประเด็นร้อนแรงที่ทุกคนพูดถึง และในไทยเองค่อนข้างเห็นได้ชัดเจนจากสินค้าหลายๆ ค่ายที่มาวางขายกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นจาก Sumsung, Jawbone หรือ Fitbit แต่ยังมีที่ผู้บริโภคยังคงรอคอยอยู่คือ Apple smart watch ที่คาดว่าจะปล่อยออกมาในราวเดือนเมษายนปีนี้ ยังมีจากค่ายอื่นๆ อีกมากมายที่ทำออกมาได้อย่างน่าสนใจ เช่น Sony ที่มีทั้งนาฬิกา และสายรัดข้อมือ, Myo ที่สั่งงานด้วยการเคลื่อนไหว (Gesture control) หรือแม้แต่ LookSee ที่เป็นกำไลข้อมือออกแบบมาอย่างสวยงาม จากทั้งหมดของบริษัท Startup ทางด้าน IoT สำหรับ Wearable แล้ว จนถึงตอนนี้ดูเหมือน Jawbone จะเป็นบริษัทที่ทุ่มเงินลงทุนไปมากที่สุด น่าจะมากกว่า 500 ล้านเหรียญไปแล้ว


            3.Smart City   
            Smart city สามารถเป็นสิ่งที่อธิบายได้อย่างกว้างขวาง ซึ่งรวมไปถึงตั้งแต่ระบบจัดการการจราจรไปจนถึงระบบจัดการน้ำ จัดการขยะ ระบบตรวจจับและเฝ้าระวังความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมในสังคมเมือง แต่สิ่งที่ถูดพูดถึงมากที่สุดคือพลังงานที่หลายๆ เมืองได้สัญญาว่าจะมาช่วยบรรเทาในการใช้ชีวิตในเมืองของทุกวันนี้
 


            4.Smart grids
            Smart grid ไปเรื่องค่อนข้างเฉพาะเจาะจงอีกเรื่องหนึ่ง ในอนาคตนั้น smart grid จะเข้ามาใช้ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งภาคธุรกิจและครัว เรือน ในรูปแบบที่จะเป็นอัตโนมัติมากขึ้นในการเพิ่มประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือและเศรษฐศาสตร์ของพลังงานไฟฟ้าเอง ในเดือนที่สำรวจนั้นพบว่ามีมากกว่า 41,000 คนที่ค้นหาด้วยคำที่เกี่ยวข้องกับ Smart grid นี้ อย่างไรก็ตามสำหรับใน Twitter ยังไม่ค่อยจะมีพูดคนพูดถึงเรื่องนี้กันเท่าไหร่นัก


            5.Industrial internet
            Industrial internet ซึ่งหมายถึง IoT สำหรับภาคอุตสาหกรรมและโรงงานการผลิต ขณะที่บริษัททางด้านวิจัยทางการตลาดเช่น Gartner หรือบริษัททางด้านเครือข่ายเช่น Cisco ได้ มองว่า Industrial internet นี้เป็นอะไรที่มีโอกาสและความเป็นไปได้มากที่สุดแล้ว แต่มันก็ไม่ใช่สินค้าสำหรับผู้บริโภคทั่วไป (mass) อย่างที่ smart home หรือ wearable เป็น สำหรับใน Twitter แล้ว industrial internet ถูกพูดถึงมากที่สุดถึงประมาณ 1,700 ทวีตต่อเดือน


            6.Connected car
            Connected car เป็นส่วนที่มีการปรับตัวช้ากว่าในรูปแบบอื่นๆ เนื่องจากวงรอบในการพัฒนาในวงการอุตสาหกรรมรถยนต์จะใช้เวลาประมาณ 2-4 ปี เรายังไม่ได้เห็นการพูดถึงในเรื่องนี้มากเท่าไหร่ในช่วงที่ผ่านมา ในส่วนของ BMW และ Ford ก็ยังไม่ได้ประกาศออกมาเป็นรูปร่างมากนัก ถึงแม้ทาง Google, Microsoft และ Apple ได้ประกาศเปิดตัวฟอร์มสำหรับ connected car ไปกันบ้างแล้ว


            7.Connected Health (Digitalhealth/Telehealth/Telemedicine)
            แนวคิดของระบบ connected health, Digital health หรือ smart medical ยังไม่ได้เป็นที่แพร่หลายนักในขณะนี้ แต่ก็มีหลายๆ ค่ายได้ปล่อยตัวระบบและอุปกรณ์มาให้เห็นกันบ้างแล้ว อย่างเช่น CellScope หรือ Swaive 


            8.Smart retail
            สำหรับ Smart retail นั้นจะเข้ามาช่วยห้างร้านต่างๆ ได้เป็นอย่างดีในการเพิ่มประสบการณ์ที่ดีสำหรับลูกค้าในการซื้อสินค้า แต่ในตอนนี้ระบบนี้ยังเริ่มต้นได้ไม่นานนักและสินค้าเฉพาะกลุ่ม เร็วๆ นี้คงได้เห็นกันมากขึ้น


       9.Smart supply chain
       ระบบนี้จะเป็นโซลูชั่นที่เข้ามาช่วยติดตามสินค้าที่กำลังขนส่งไปตามท้อง ถนน ซึ่งระบบนี้จริงๆ แล้วได้มีการใช้งานมาบ้างแล้ว แต่เมื่อพูดถึงในมุมมองของ Internet of Things ดูเหมือนว่าจะยังมีการพูดถึงอยู่ในวงจำกัด

             10.Smart farming

            Smart farming บ่อยครั้งที่ถูกมองข้ามเมื่อพูดถึง Internet of Things เพราะเนื่องจากมันไม่ค่อยเป็นที่รับรู้หรือถูกนึกถึงเมื่อเทียบกับด้าน สุขภาพ มือถือ หรืออุตสาหกรรม แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากการทำไร่นาสวนต่างๆ เป็นการปฏิบัติงานในพื้นที่ที่ค่อนข้างห่างไกล ฉะนั้นการนำ Internet of Things มาประยุกต์ใช้เพื่อทำการมอนิเตอร์จึงเป็นอะไรที่สามารถปฏิวัติวงการการทำ เกษตรได้เลยทีเดียว



Case/ Scenario/ Role Play?
            ด้วยความสามารถของอุปกรณ์ที่จะช่วยพัฒนาในการดูแลรักษาสุขภาพและความ ปลอดภัยของคนหลายพันล้าน Healthcare เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่จะสามารถประยุกต์ใช้ IoT ได้เป็นอย่างดี ด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เชื่อมต่อแบบไร้สาย จะทำให้สามารถเก็บบันทึกและวิเคราะห์ข้อมูลได้รวดเร็วและถูกต้องแม่นยำมาก ขึ้น ซึ่งทำให้บุคคลากรทางการแพทย์วินิจฉับและรักษา และพัฒนามาตรฐานการดูแลรักษาได้ดียิ่งขึ้น
            อุปกรณ์สวมใส่ (Wearable devices) เพื่อมอนิเตอร์สุขภาพสำหรับผู้ป่วย กำลังเป็นที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยความสามารถในการวัด ชีพจร วัดระดับน้ำตาล อัตราการเต้นของหัวใจ และส่งข้อมูลจากบ้านผู้ป่วยไปยังบุคคลากรทางการแพทย์ให้รับทราบแบบทันที (realtime)



Impact?
         The Internet of Things (IoT) หรือ The  Internet of everythings (IoE) มีผลต่อผู้บริโภคอย่างไร 
            จาก IoT หรือ IoE ที่เกิดขึ้นนั้น จะทำให้เรื่องของ Digital นั้นไม่ใช่สิ่งที่ใหม่อีกต่อไป แต่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ผู้บริโภคนั้นมีความคาดหวังในการทำงานที่ร้อยต่อกันอย่างสนิทระหว่างอุปกรณ์ ต่าง ๆ แบบไม่มีอาการติดขัดหรือสะดุด เช่นถ้าฟังเพลงผ่านมือถือ หรือวิทยุในรถ ก็คาดหวังว่ากลับมาที่บ้านก็สามารถฟังเพลงนั้นต่อได้จากอุปกรณ์ในบ้านได้เลย
สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคือผู้บริโภคนั้น คาดหวังว่าอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ทำงานนั้นจะต้องรู้จักตัวตนของผู้ใช้ และเข้าใจว่าผู้ใช้นั้นต้องการอะไร รวมทั้งสามารถสื่อสารกับอุปกรณ์อื่น ๆ รอบตัวเพื่อส่งผ่านข้อมูลนั้นไปได้ สิ่งที่เป็นนี้ผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Marketing ในบริษัท Adobe ระบุว่าจะเป็นเรื่องของ Internet of Me หรือการ Personalise ของอุปกรณ์ต่าง ๆ ไปตามความชอบของแต่ละคน
          The Internet of Things (IoT) หรือ The  Internet of everythings (IoE) มีผลต่อนักการตลาดในอนาคตอย่างไร 
            ผลที่เกิดขึ้นจากการที่ผู้บริโภคมีความคาดหวัง ในการทำงานของอุปกรณ์เหล่านี้นั้น ทำให้นักการตลาดต้องสร้างสิ่งที่เรียกว่าประสบการณ์ของผู้ใช้และความเป็นตัว ตนของผู้ใช้นั้นให้ดีที่สุด เช่นการที่สามารถรับรู้ได้ว่าผู้บริโภคเป็นใคร หรือรับรู้ว่าผู้บริโภคคนนี้มีความชอบอะไร แล้วจัดสินค้าหรือโปรโมชั่น ข่าวต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับผู้บริโภคนั้น ๆ
นอกจากนี้ด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ จะทำให้มีข้อมูลมากมายที่เกิดขึ้นมาดังที่กล่าวไปในข้างต้นแล้ว ข้อมูลนั้นจะเป็นข้อมูลที่ผู้ใช้ปฏิสัมพันธ์และยินยอมที่จะให้ข้อมูลไว้ นักการตลาดต้องเรียนรู้และจัดระบบข้อมูลเหล่านี้ ว่าข้อมูลไหนที่ควรใช้และไม่ควรใช้ หรือจับกระแสความต้องการของคน วิเคราะห์ออกมา และตอบสนองความต้องของคนใช้ให้เกิดความพึงพอใจมากที่สุด ดังเช่นการใช้เว็บไซต์อย่าง Amazon จะเห็นได้ว่า Amazon นั้นมีการติดตามผู้ใช้ว่าซื้อสินค้าอะไรบ้าง และสามารถจะแนะนำสินค้าที่เราอาจจะชื่นชอบผ่าน Email ต่อไป กระบวนการเช่นนี้จะเกิดขึ้นแบบเดียวกับ แต่เป็นกับอุปกรณ์อื่น ๆ รอบตัวเช่น ปุ่มสั่งซื้อของจาก Amazon ที่เพิ่งมีการเปิดตัวไป หรือการที่ห้างสามารถรับรู้ได้ว่าคนที่มาซื้อของเป็นใครและจัดโปรโมชั่นที่ เหมาะสมให้

 อ้างอิง: http://www.strategic-man.com/articles/detail/19#.VZ1jT5NQ3fY
             http://www.inofthings.com/10-%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89-internet-thin/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น